การออกแบบภายใน สำหรับนักออกแบบก็คงเข้าใจความหมายของคำคำนี้เป็นอย่างดี การออกแบบภายใน คือ งานออกแบบ พื้นที่ต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในอาคาร เน้นการออกแบบที่ละเอียด ความสวยงามและพื้นที่การใช้สอยที่อำนวยความสะดวกสบาย ในอดีตงานในส่วนนี้คือหน้าที่ของสถาปนิก สมัยก่อนอาชีพสถาปนิกต้องทำทุกอย่างหรือรับผิดชอบทุกอย่างเกี่ยวกับการออกแบบอาคารและควบคุมงานก่อสร้าง ทั้งตัวอาคารและภายในอาคาร ไปจนถึงการออกแบบโครงสร้างและพื้นที่บริเวณโดยรวมด้วย
ย้อนกลับไปในยุคโรมัน ยุคกลางที่เริ่มเข้าสู่ยุคใหม่ มีการคำนวณการรับแสงของอาคารด้วยสูตรทางคณิตศาสตร์และวิชาฟิสิกส์ รวมไปถึงนงานวิศวกรรม จึงเกิดการแยกอาชีพระหว่างสถาปนิกและวิศวกรรมออกจากกัน เมื่อเวลาผ่านไปเข้าสู่ยุคใหม่มากขึ้น งานออกแบบภายในเริ่มมีสายอาชีพเฉพาะทางที่ชัดเจนมากขึ้น จึงเกิดเป็นสาขาวิชา มัณฑนศิลป์ ภาษาอังกฤษคือ Decorative Art เน้นการเรียนการสอนไปที่งานศิลปะที่นำมาประยุกต์ใช้ในการตกแต่ง
สาขาออกแบบภายใน หรือ Interior แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
– Interior Architect สถาปัตยกรรมภายใน : ส่วนใหญ่สาขานี้จะมีหลักสูตรการเรียนการสอนระยะเวลา 5 ปี ปีแรกๆ จะเน้นการเรียนการสอนขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการออกแบบทั้งหมด เช่น Drawing Painting เขียนแบบ ประวัติศาสตร์ศิลป์ กฎหมายต่างๆ การออกแบบโครงสร้าง เป็นต้น พอปีสูงขึ้นมาหน่อยจะเน้นการเรียนด้านวัสดุออกแบบ ศาสตร์การออกแบบภายในทั้งหมด การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการออกแบบ เป็นต้น
– Interior Design การออกแบบ : หลักสูตรนี้จะเรียน 4 ปี เน้นเกี่ยวกับการออกแบบพื้นที่ภายในสู่ภายนอก และภายนอกสู่ภายใน ช่วงปีแรกจะเน้นการเรียนพื้นฐานการวาดเส้น Drawing การเขียนแบบภายในและการลงเส้น สุนทรียภาพ ฯลฯ พอปีสูงขึ้นมาหน่อย ประมาณปี 3-4 จะเน้นที่การเรียนเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ งานระบบ งานโครงสร้าง และงานเฟอร์นิเจอร์ การออกแบบภายใน ไม่ใช่การทำห้องให้สวยงามเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญเรื่องโครงสร้าง ความปลอดภัย และความสะดวกสบายต่อการใช้งานด้วย
ในขณะเดียวกันหลายคนเกิดความสงสัยว่า การออกแบบแตกต่างจากสถาปัตยกรรมอย่างไร เนื่องจากสาขาทั้ง 2 สาขานี้มีความคล้ายคลึงกันมาก สิ่งที่แตกต่างไม่ได้มีเพียงแค่ชั้นปีที่เรียนอย่างเดียว ซึ่งสาขาสถาปัตยกรรม จะเน้นในส่วนของการดูแลโครงสร้าง การวิเคราะห์ผู้ใช้งาน กฎหมายสำหรับการก่อสร้าง ส่วนสาขาออกแบบจะเน้นไปที่การออกแบบและจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งความสวยงามด้วยเช่นเดียวกัน
เป็นอย่างไรกันบ้าง และทั้งหมดนี้ก็คือ ความหมายของการออกแบบ และสาขาการออกแบบ เชื่อว่าทั้งหมดนี้จะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือน้องๆ หนูๆ ที่อยากเรียนวิชาการออกแบบว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง หวังว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้จะพอเป็นแนวทางให้กับทุกคนที่สนใจอยากเรียน อยากเข้าไปศึกษาด้านการออกแบบภายในรวมทั้งสถาปัตยกรรม เพื่ออาชีพที่ไฝ่ฝันในอนาคต