โรคประจำตัว คือ อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่เป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และนำพามาซึ่งความเสียหายและสูญเสียที่ทำให้ต้องซื้อประกันภัย รถไว้เพื่อคุ้มครอง โดยกรมการขนส่งทางบกได้ออกระเบียบข้อบังคับสำหรับการขอใบอนุญาตขับขี่ เกี่ยวกับ 5 โรคอันตรายที่กรมไม่อนุญาตให้สามารถขับขี่บนท้องถนนได้ อันได้แก่ โรคเท้าช้าง โรควัณโรค โรคเรื้อน โรคพิษสุราเรื้อรัง และโรคติดยาเสพติดให้โทษ แต่ทั้งนี้ในปัจจุบันปัญหาสุขภาพทวีความรุนแรงมากขึ้น โรคประจำตัวที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้น มีมากกว่า 5 โรคที่ได้กล่าวมา ซึ่งจะมีโรคใดบ้างนั้นไปติดตามกันเลย
1. โรคทางดวงตาและสายตา
จริง ๆ แล้ว โรคอันตรายทางดวงตาและสายตา ไม่ได้เกิดขึ้นโดยฉับพลัน แต่เป็นปัญหาเรื้อรังที่หากไม่รักษาจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทัศนวิสัยการมองเห็นขณะขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นต้อกระจก ต้อหิน รวมถึงจอประสาทตาเสื่อม แต่ทั้งนี้โรคเหล่านี้หากถูกกระตุ้นโดยสิ่งเร้าระหว่างการขับขี่ อาทิ แสงแดด แสงไฟ ก็อาจทำให้อาการทรุดลงกะทันหัน จนเกิดอาการตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน หรือมองเห็นได้ไม่ชัดเจนอย่างเคย ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้โดยง่าย
2. โรคลมชัก
เป็นอีกหนึ่งโรคที่มีความอันตรายสูง หากอาการเกิดกำเริบขณะขับขี่ โดยผู้ป่วยลมชักจะมีหลายอาการที่ส่งผลต่อการขับขี่ อาทิ อาการชักจนหมดสติ ร่างกายเสียการควบคุม จนไม่สามารถควบคุมการขับขี่ได้ ทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้อย่างไม่รู้ตัว ถึงแม้ว่าในอนาคตโรคลมชักอาจถูกกำหนดเป็นโรคอันตรายที่ไม่อนุญาตให้ขับขี่ แต่ก็ใช่ว่าจะควบคุมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะยังมีผู้คนอีกมากที่ไม่รู้ว่าอาการลมชักจะเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไหร่ หรือบางคนอาจรู้ แต่ไม่ได้มีการพบแพทย์ หรือปฏิเสธการเกิดโรค เพียงเพราะอยากได้ใบอนุญาตขับขี่มาครอบครอง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การควบคุมดูแลเป็นไปได้ยากพอสมควร
3. โรคหัวใจ
อีกหนึ่งโรคอันตรายที่อาการสามารถกำเริบได้ตลอดเวลา อย่างไม่มีสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าเสียด้วย โดยอาการของโรคหัวใจที่ส่งผลต่อความสามารถในการขับขี่นั้น คือ อาการหน้ามืด คล้ายจะเป็นลม ความสามารถในการมองเห็นน้อยลง ภาพที่เห็นเบลอและไม่ชัดเจนอย่างเคย จนรุนแรงถึงขั้นหมดสติไปในฉับพลัน ผู้ที่มีอาการของโรคหัวใจจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องซื้อประกันภัย รถติดไว้ สำหรับคุ้มครองคุณหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
4. โรคเบาหวาน
สำหรับโรคเบาหวานนั้น จะมีผลต่อการขับขี่ในกรณีที่ความรุนแรงของโรคอยู่ในระยะวิกฤต ชนิดที่ต้องคอยฉีดอินซูลีนหล่อเลี้ยงร่างกาย เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ โดยผู้ป่วยจะมีอาการหน้ามืด ใจสั่น ตาเริ่มพร่ามัว ชาตามมือและเท้า เสียสมาธิในการขับขี่ จนถึงขั้นหมดสติลงในที่สุด ซึ่งจากความรุนแรงของอาการที่กล่าวมา นอกจากจะลดทอนความสามารถในการขับขี่และควบคุมรถแล้ว ยังลดความสามารถในการบังคับพวงมาลัย จากอาการชาที่แทรกซ้อนขึ้นมาอีกด้วย
5. โรคหลอดเลือดในสมอง
โรคที่เกิดจากภาวะสมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง จากสาเหตุหลอดเลือดอุดตัน ตีบตัน และแตก ทำให้สมองจะหยุดทำงานโดยฉับพลัน ระบบควบคุมอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายล้มเหลว ผู้ป่วยจะหมดแรงในการทำกิจกรรม แขนขาไม่มีแรง หากขับรถอยู่จะสูญเสียการควบคุมทั้งมือและเท้า หรือบางรายอาจมีอาการมือเท้ากระตุกแทรกเข้ามาอยู่เป็นระยะ อาการเหล่านี้มีผลต่อการขับขี่โดยตรง และหากเกิดในขณะที่ขับรถด้วยความเร็วโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุย่อมเป็นไปได้สูง
ทางที่ดีหากคุณเป็นหนึ่งในผู้ป่วยโรคอันตรายทั้ง 5 นี้ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่รถด้วยตนเอง หรือหากจำเป็นควรมีผู้ติดตาม หรือเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วย ทั้งนี้ต้องไม่ลืมที่จะซื้อประกันภัย รถติดไว้เสมอ เพื่อเพิ่มความคุ้มครองในการขับขี่ รวมถึงหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิม หมั่นเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่ออัปเดตอาการอยู่เป็นประจำ การดูแลตัวเองเช่นนี้ ถือเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกทาง